วันพุธที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2558
“ท็อป” ยังห่วง “อู๋” ไม่บีบให้จนตรอก โต้ขึ้นมึง-กู ทำร้ายร่างกายอดีตผัว
“ท็อป ดารณีนุช” ปัดหลังหย่าไม่มองหน้าอดีตผัว คอนเฟิร์มไม่ใช่คนเลว ไม่เคยตบตีลงไม้ลงมือ ส่วนตนไม่เคยจิกด่าทุบตีผัว บอกแม้แต่ขึ้นมึง-กูก็ไม่เคย ลั่นเลิกกันไม่จำเป็นต้องเป็นศัตรู ไม่บีบอีกฝ่ายให้จนตรอก โต้ขัดแย้งเรื่องแบ่งผลประโยชน์ 30 ล้าน
ควงลูกชายเปิดใจถึงประเด็นหย่าขาดกับอดีตสามี “อู๋ กฤต โพธิปิติ” ปิดฉากชีวิตครอบครัวอบอุ่น 22 ปีไปแบบช็อกใจแฟนๆ แต่งานนี้ดูเหมือนออร่าความหล่อของสองลูกชายจะเข้าตาสาวๆ โดยเฉพาะ “กั๊ท กฤณ โพธิปิติ” ถึงขนาดชาวโซเชียลต่างเข้าไปส่องในไอจีและแชร์รูปกันกระจาย งานนี้พอได้เจอตัว “ท็อป ดารณีนุช ปสุตนาวิน” ใน งานพิธีเปิดตัว “มาสเตอร์พีซ คลินิก” โดย นพ.ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล-หมอเส คลินิกความงามอันดับ 1 ในสยามสแควร์ ณ โรงแรมปทุมวัน ปริ้นเซส เจ้าตัวเลยเผยว่าไม่เคยอยากผลักดันลูกชายเข้าวงการ เชื่อยังหล่อไม่ถึงขั้นเป็นพระเอก
“ตอนนี้ก็เป็นพวกรายการทีวี แต่ว่าละครหรืออะไรก็ยังไม่ได้ติดต่อมา ยืน ยันตรงนี้เลยว่าไม่ได้ดันเป็นเรื่องปกติแต่ก่อนนั้นที่ยังไม่ออกทีวีก็ไปไหน มาไหนกับเรานะแต่อาจจะไม่มีใครรู้จักเขาไม่ได้มีใครเห็น หน้าที่ก็คือหิ้วรองเท้าให้ทำโน่นทำนี่เอาน้ำให้กิน จริงๆ เขาเคยเล่นเรื่องโลกกลมๆ ของขนมถ้วย เล่นทั้งเรื่องเลยนะเป็นพระเอกตอนเด็ก ถาม ว่าสนใจไหมเขาไม่เคยเดินมาบอกแม่พาไปเล่นละครหน่อยสิเหมือนเขารู้หน้าที่ว่า ตอนนี้เขาต้องเรียนหนังสือนะก็เรียนไปให้จบก่อนค่อยว่ากันหรือระหว่างนั้น ถ้าเกิดเรียนไปด้วยแล้วมีงานเข้ามาแล้วเขาทำได้ก็ทำแต่พี่ไม่เคยเอาลูกไปแบบ ฝากฝังเพื่อนเป็นผู้กำกับ พี่ชุดาภา เอาลูกเล่นหน่อยไม่เคยทำเลยคือเหมาะก็เล่นไม่เหมาะก็ไม่เล่น”
“ไม่มีใครมาชวนเลยก็คุยไหว้กันปกติไม่ได้อะไร เขาคงเห็นมานานแล้วละ ก็ คงไม่ถึงขั้นพระเอกหรอกอาจจะเป็นตัวสองตัวสามตัวสี่ก็ได้(หัวเราะ)ถ้าพระเอก ต้องมีองค์ประกอบหลายอย่าง หน้าดึงดูดมาเลย เราว่าหน้าลูกยังไม่ถึงพระเอก แต่ถ้าเกิดเป็นพระเอกเก่งด้วย หล่อด้วย เหมือนน้องๆ หลายคน ก็อาจจะเป็นไปได้ ถ้าเขาเก่งจริงก็อาจจะมีโอกาส ห่วงแต่ไม่หวง หวงไหมถ้าเต็ม 10 ก็หวง 3 หวงกับผู้หญิงอยากให้เขาได้คนดีๆ แต่ว่าแฟนเขาก็โอเค ถ้าลูกมันรู้จักแยกแยะอะไรได้คิดเองเป็นเราไม่ค่อยอยากไปยุ่งกับเขา เราจะเคารพในความคิดของเขา”
ปัดหลังหย่าไม่มองแม้แต่หน้า ส่วนครหาจิกตีด่าผัวไม่เคยทำ แม้แต่ขึ้นมึงกูยังไม่เคย
“ไม่จริงค่ะก็ยังซื้อน้ำตาลสดอุดหนุนนางอยู่ แล้วก็คุณแม่เขาไม่สบายเข้าโรงพยาบาลเราก็ติดต่อย้ายโรงพยาบาลให้ ไม่ใช่ไม่ติดต่อไม่มองหน้ากันเป็นไปไม่ได้หรอกเพราะว่าลูกเต้า วันก่อนเขาก็ยังมาที่บ้านเอาน้ำตาลสดมาส่งให้ แต่ไม่ได้เจอเพราะเราออกไปทำงาน แต่ว่าถ้าเกิดเจอก็เฉยๆ ก็ถามอะไรปกติแต่ก็ไม่ใช่ถามเพื่อจะเชื่อมต่อความสัมพันธ์ ก็จะคุยเรื่องทั่วๆ ไป ไม่เคยขึ้นมึงกู มีข่าวว่าเราไปจิกหัวผัว ด่าผัว ตีผัว ก็มีเพื่อนส่งมาให้ดูซึ่งอันนี้เราก็ยอมรับว่าไม่เป็นความจริงเพราะตลอด ชีวิตแต่งงานมาไม่เคยตีกัน สามีเราก็ตีเราไม่ได้เพราะเราตัวใหญ่ แล้วเราก็ไม่เคยตีสามีเพราะเป็นผู้ชายตีไปเดี๋ยวมันโกรธสู้กลับเราก็ซวย คือตอนคบกันก็มีกติกาว่าเราจะไม่ทะเลาะกันขึ้นมึงกูจะไม่ทำร้ายร่างกายกัน เพราะเราไม่ชอบความรุนแรงถ้ามีอะไรต้องเป็นเหตุปะทะจะหลีกเลี่ยงเพราะเราไม่ ชอบ”
“ไม่ได้อ่านข่าวแต่เพื่อนส่งมาว่ามีข่าวแบบนี้ เราก็มองเป็นเรื่องขำๆ ไปซะเพราะเรื่องจริงมันไม่ใช่เราก็จะไปพูดแก้ทำไม คือถ้าตีผัวจริงอะแกคงตายอะ(หัวเราะ)”
โต้ขัดแย้งเหตุแบ่งผลประโยชน์ไม่ลงตัว มีหุ้นในธุรกิจร่วม 30 ล้าน ยันไม่เคยยกธุรกิจน้ำตาลสดให้อีกฝ่าย แต่เป็นอีกฝ่ายที่ริเริ่มธุรกิจจนติดตลาด
“ไม่มีธุรกิจอะไรเล๊ย มีน้ำตาลสด ก็ของเขาอันเดียวเพราะเราไม่มีธุรกิจอะไรอื่นอย่างบริษัทโซนิคที่หุ้นกันก็ เป็นชื่อเราหุ้น หุ้นตั้งแต่ตอนแต่งงานแล้วก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา (มีกระแสว่ามีหุ้น 30 ล้าน) ไม่มีหุ้นอะไรในชีวิตเลย 30 ล้านคือเราไม่มีธุรกิจอะไรที่ร่ำรวยมหาศาลก็มีบริษัทโซนิคยูสที่หุ้นกันถ้า เกิดว่าเป็นหลายๆ ร้อยล้านเราก็ต้องรวยมากได้อาศัยรวยด้วยแต่เรามีอยู่แค่ 5% ก็เป็นหุ้นลักษณะเพื่อนรักเราให้เรามีชื่ออยู่ด้วยอะไรอย่างนี้ แล้วก็ธุรกิจของตัวเองไม่ได้มีอะไรมีน้ำตาลสดซึ่งสามีก็เป็นคนคิดเอาเข้ามา ขายไม่ใช่เรายกให้เขา เป็นธุรกิจที่เขาริเริ่มของเขาเราแค่ใช้เครดิตของเรานำให้เป็นที่รู้จักแล้ว ก็หาตลาด คือเขาก็หาแหละแต่ถ้าอันไหนเป็นโอกาสพิเศษไปตรงนั้นตรงนี้อาศัยความเป็นตัว เรา เราก็จะให้ไปขายบอกเธอส่งไลน์ไปว่ามันมีที่นี่ๆ นะเขาจะให้ไปเธอเอาไหม ถ้าเวลาเขาได้เขาก็ไป ถ้าอันไหนเขาให้ไปโชว์ตัวก็เดี๋ยวไปให้ วันหนึ่งก็ดูคิวให้ ทำอย่างนี้อะค่ะ ทำให้เขาแต่ว่าไม่ได้ทำเพราะว่าเป็นการแบ่งผลประโยชน์กันเลยเพราะเราไม่เคย ได้อะไรจากน้ำตาลสดของเขา เราถือว่าอันนี้ควรจะให้เขาได้เลี้ยงตัวเอง”
บอกอย่าตัดแขนตัดขาให้ใครจนตรอก อย่างน้อยเป็นพ่อของลูกไม่ใช่คนเลว เลิกกันไม่จำเป็นต้องเป็นศัตรู
“จำไว้นะว่าเวลาเราจะทำอะไรอย่าผลักคนให้เขาหลังชิดกำแพงไป ตัดแขนตัดขาเขามันเป็นไปไม่ได้ คืออย่างน้อยเขาก็เคยเป็นพ่อของลูกเราเขาเป็นสามีเราไม่ได้เป็นคนเลวอะไร ขนาดนั้นไม่จำเป็นว่าสัมพันธภาพจบลงแล้วเราต้องเป็นศัตรูกัน เพราะ ว่าจริงๆ แล้วคนทั่วไปเขาจะมองว่าคนหย่ากันจะต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ แต่เราก็ไม่ได้ถึงกับอุ้ย…หย่ากันด้วยดีเป็นเพื่อนออกไปกินข้าวบอกเลยว่าไม่ ใช่แต่ก็ไม่ได้ว่าเกลียดกันก็ยังมีเฮ้ย….มีอะไรโทร.บอกละกันไม่ใช่ว่าอย่ามา ยุ่งกับชั้นเรื่องของเธอสิไม่ใช่”
Cr : Manager Online
ป้ายกำกับ:
กฤต โพธิปิติ,
ท็อป ดารณีนุช,
มาสเตอร์พีซ คลินิค,
สามี อู๋,
หย่าร้าง
ตำแหน่ง:
ประเทศไทย
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น