มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ จุดประกายนวัตกรรมที่ก่อให้เกิดสิ่งประดิษฐ์ไฮเทค 4 ชิ้น โดยนักศึกษาและอาจารย์พัฒนาต่อยอดจากเทคโนโลยีระดับสากลจากการเรียนการสอนใน ห้องเรียน ประกอบด้วย 1.รถสอดแนมกู้ภัย  2.ระบบผู้เชี่ยวชาญเสมือนจาก Facebook Oculus Rift  3.ระบบบริหารร่างกายฤาษีดัดตน และ 4.พริ้นเตอร์ 3 มิติ (3D Printer)

"อ.ณัฏฐ์ โอธนาทรัพย์" ผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมและเทคโนโลยีการศึกษา มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยเอเซียอาคเนย์ได้ร่วมกับคณาจารย์และนักศึกษาได้พัฒนางานเพื่อ ต่อยอดเทคโนโลยีเพื่อความทันสมัย โดยสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ ได้นำอุปกรณ์เทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์สมาร์ทโฟน กล้อง Kinect ของ Microsoft หรือ Oculus Rift ของ Facebook และ Raspberry Pi มาประยุกต์ใช้งานร่วมกัน จนก่อให้เกิดผลงานที่น่าภาคภูมิใจ

สำหรับ สิ่งประดิษฐ์รถสอดแนม IOIO ที่พัฒนาขึ้นเพื่อใช้ในเหตุการณ์ตึกถล่มหรือสถานการณ์เหตุการณ์ความไม่สงบ ต่าง ๆ ซึ่งคนไม่สามารถเข้าไปได้เพราะอาจเกิดอันตราย เช่น การวางระเบิด และการจับคนเป็นตัวประกัน โดยสามารถใช้รถแนมเข้าไปสำรวจตามซอกเล็ก ๆ ที่สำคัญยังสามารถใส่อุปกรณ์อื่น ๆ เพิ่มเติมได้ เช่น กล้องปากกาสอดแนม  กล้องสอดแนม CCTV หรืออุปกรณ์ทำลายวัตถุระเบิด

วิธี ใช้งานคือ จะใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ 2 เครื่องในการเชื่อมต่อและบังคับทิศทาง โทรศัพท์เครื่องที่ 1 จะคอยสั่งการผ่านบลูทูธ(Bluetooth) ส่งคำสั่งเข้าโทรศัพท์เครื่องที่ 2 ที่ติดตั้งอยู่กับรถ มีรัศมีทำการเท่ากับรัศมีของไวไฟ (Wifi) ตัวแอพพลิเคชั่นที่ใช้ โดยใช้ร่วมกับโทรศัพท์มือถือ พัฒนาต่อยอดมาจาก IOIO Board (อ่านว่า โยโย่ บอร์ด) ซึ่งถ้าเป็นรถบังคับทั่วไปคนที่คอนโทรลจะไม่เห็นอะไร แต่ตัวนี้จะเห็นมุมมองจากรถด้วยกล้องจิ๋ว ว่าวิ่งถึงไหน เข้าไปในไหนแล้ว อันนี้คือก้าวแรกของการพัฒนา

นอก จากนี้ยังมีสิ่งประดิษฐ์ระบบการบริหารร่างกายฤาษีดัดตน มีแนวคิดมาจากการที่เห็นประเทศอื่นทำท่าออกกำลังกายด้วยท่าบอดี้คอมแบต จี้กง โยคะ ทางมหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์จึงมีแนวคิดพัฒนาท่าบริหารร่างกายของไทยขึ้นมา บ้าง เพื่อส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมไทย จึงพัฒนาระบบการบริหารฤาษีดัดตนขึ้นมาเพื่อให้คนไทยได้บริหารร่างกายในท่า ฤาษีดัดตนอย่างถูกต้อง และไม่จำเป็นต้องไปที่วัดโพธิ์ เพราะระบบนี้จะทำให้เกิดความสนุกสนานกับการบริหารร่างกาย อุปกรณ์ที่ใช้จะเป็นกล้อง Kinect ของ Microsoft ที่จะคอยจับรายละเอียดร่างกาย เครื่องนี้สามารถเช็คท่าทางว่าทำถูกหรือไม่ มีการให้คะแนน เสมือนมีคนสอน มีทั้งหมด 18 ท่าหลัก

"อ.ณัฏฐ์" อธิบายต่อถึงสิ่งประดิษฐ์อีกชิ้นที่เป็นผลงานของนักศึกษาคือ ระบบผู้เชี่ยวชาญเสมือน Oculus เพื่อให้นักศึกษาได้เห็นมุมมองของอาจารย์ผู้สอนเป็นภาพ 3 มิติ โดยสมมุติอาจารย์เป็นวิศวกรสำรวจตึกใส่หมวกที่มีกล้องติดอยู่ นักศึกษาจะได้เห็นมุมมอง 3 มิติของกิจกรรมดังกล่าว ประโยชน์คือจะได้ความเชี่ยวชาญ และได้ประสบการณ์

สิ่งประดิษฐ์ตัวนี้ ใช้อุปกรณ์ Oculus Rift ของ Facebook เชื่อมต่อกับ Raspberry Pi ซึ่งทำหน้าที่เก็บบันทึกข้อมูล และเอากล้องเว็บแคมใส่กับหมวกเฮดการ์ด ซึ่งกล้องตัวนี้เหมือนกับลูกตา 2 ข้าง แล้วมีการบันทึกภาพเป็นสามมิติพร้อมเสียงของอาจารย์ผู้สอน

นอกจากนี้ ที่มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ยังมีการนำพริ้นเตอร์ 3มิติ (3D Printer)มาใช้สำหรับนักศึกษาวิชาออกแบบ เพื่อจะได้เห็นรูปร่างของชิ้นงานอย่างเป็นรูปธรรมในทุก ๆ ด้าน ไม่ใช่แค่ด้านเดียวเหมือนในกระดาษหรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ โดยการทำงานใช้ร่วมกับกล้อง Kinect ที่สามารถถ่ายภาพตื้นลึกเป็นภาพสามมิติได้ นำมาสแกน object หรือวัตถุรอบด้านก็จะได้ออกมาเป็น 3D โมเดล ได้ทันที

"ผศ.ดร.วีร พันธ์ ม่วงทองสุข" ผู้อำนวยการสำนักวิจัย มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ กล่าวเสริมว่า วัสดุที่ใช้ในการสร้างชิ้นงานสำหรับพรินเตอร์ 3 มิติ(3D Printer)คือ PLA เป็นไฟเบอร์จากอ้อยซึ่งจะไม่เป็นอันตราย มันจะละลายแล้วหลอมออกมาเป็นชิ้นงานโดยใช้ความร้อน ซึ่งตัวนี้เป็นโครงการที่ต้องการให้นักศึกษานำรายวิชาที่เรียนมาปรับและ พัฒนาให้เกิดประโยชน์

"ยกตัวอย่างนักศึกษาวิศวกรรมเครื่องกลจะมีวิชา ออกแบบหรือว่าเขียนแบบวิศวกรรม ปกติเขียนแบบจะแค่ดราฟอยู่ในคอมพิวเตอร์ แต่หากออกแบบก็จะคำนวณรูปร่างของวัสดุต่าง ๆ แต่ก็จะไม่เห็นของจริง เครื่องมือนี้สามารถช่วยสร้างความเข้าใจให้กับนักศึกษามากขึ้น เราเรียกว่า Rapid Modeling คือการทำการออกแบบแล้วพริ้นโมเดลออกมาอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีในโลกปัจจุบันนี้มีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก มนุษย์เราใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น"

"ฉัททวุฒิ พีชผล" อธิการบดี มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางมหาวิทยาลัยมุ่งเน้นให้นักศึกษาได้มีโอกาสลงมือปฎิบัติจริง เพื่อพัฒนาเยาวชนรุ่นใหม่มีความคิดสร้างสรรค์และมีความสามารถในการเรียนรู้ สูง โดยการให้โอกาสนักศึกษาได้คิด ฝึกฝน พัฒนากับของจริง เพื่อพัฒนาต่อยอดด้วยเครื่องมือการเรียนรู้ที่ทันสมัยตามมาตรฐานสากล มีส่วนช่วยส่งเสริมการเรียนรู้และช่วยเตรียมพร้อมพัฒนาให้นักศึกษา ของมหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ มีทักษะด้านเทคโนโลยีที่ต้องใช้ในการทำงานจริงในศตวรรษที่ 21 ได้เป็นอย่างดี เพิ่มประสบการณ์และทักษะของผู้เรียน และเป็นการสะท้อนถึงการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยไทยว่าไม่แพ้ชาติใดในโลก

Cr.ประชาชาติธุรกิจ